📶 หลังจากการแข่งขันประมูลคลื่นความถี่ 5G ที่ดุเดือดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดภาพก็ชัดเจนแล้วว่าสองค่ายยักษ์ใหญ่ AIS และ True ได้คลื่นความถี่ใหม่ไปเสริมทัพเครือข่ายของตัวเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือของเราทุกคนอย่างแน่นอน!
🚀 AIS เสริมแกร่งด้วย “คลื่น 2100 MHz” กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท
AIS คว้า คลื่น 2100 MHz ไปได้ถึง 3 ชุด ด้วยมูลค่ารวมกว่า 14,850 ล้านบาท ทำให้ AIS มีคลื่นความถี่รวมในมือสูงถึง 1,450 MHz การได้คลื่น 2100 MHz เพิ่มเติมนี้ AIS จะนำไปใช้ในแนวทางหลักๆ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีขึ้น:
⚡️ เปิด 4G Super Block ขนาด 20 MHz: นี่หมายถึงการขยายช่องสัญญาณ 4G ให้กว้างขึ้น ทำให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
🔗 จับคู่กับคลื่น 1800 MHz เดิม: AIS จะนำคลื่น 2100 MHz ไปทำ Carrier Aggregation (CA) ร่วมกับคลื่น 1800 MHz ที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะช่วยให้มือถือของคุณรับส่งข้อมูลได้เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น เหมือนมีถนนเพิ่มขึ้น ทำให้รถ (ข้อมูล) วิ่งได้ลื่นไหลกว่าเดิม
⬆️ เพิ่มประสิทธิภาพ 5G แบบ 3CA: ส่วนหนึ่งของคลื่น 2100 MHz ที่เหลือจะถูกนำไปใช้กับ 5G ในรูปแบบ 3CA (การรวมคลื่น 3 ความถี่) เพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่หนาแน่นได้ดียิ่งขึ้น
🚀 True คว้า “คลื่น 2300 MHz” และ “1500 MHz” เสริมทัพใหญ่กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
ในฝั่งของ True ก็คว้าคลื่นความถี่สำคัญมาได้เช่นกัน นั่นคือ คลื่น 2300 MHz จำนวน 7 ชุด และ คลื่น 1500 MHz อีก 4 ชุด ด้วยมูลค่ารวมกว่า 26,423 ล้านบาท ทำให้ True มีคลื่นความถี่ในมือรวมทั้งหมด 1,350 MHz การได้คลื่นทั้งสองย่านนี้จะช่วยให้ True สามารถพัฒนาบริการ 5G ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:
🛣️ คลื่น 2300 MHz (70 MHz): “เพิ่มเลนหลักแบบจัดเต็ม!”
การได้คลื่น 2300 MHz มาถึง 70 MHz ถือเป็นการ เพิ่มความจุ (Capacity) และ ความเร็ว (Speed) ให้กับเครือข่ายมิดแบนด์ของทรูได้อย่างมหาศาล เปรียบเหมือนการเพิ่มเลนถนนหลักอีกหลายเลน ทำให้รองรับปริมาณข้อมูลมหาศาล และผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมกันได้โดยที่ความเร็วไม่ตก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่และพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น
🌟 คลื่น 1500 MHz (20 MHz): “เลนพิเศษที่ไปได้ไกลกว่าเดิม!”
แม้จะเป็นเพียง 20 MHz แต่คลื่น 1500 MHz มีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจคือสามารถ เดินทางได้ไกลกว่าคลื่นมิดแบนด์อื่นๆ เล็กน้อย การที่ทรูได้คลื่นนี้มา จึงเป็นเหมือนการเพิ่มเลนพิเศษในถนนหลัก ที่ไม่ได้แค่เพิ่มความเร็วและความจุ แต่ยังช่วย ขยายพื้นที่ครอบคลุมของสัญญาณ 5G ให้กว้างไกลขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ชานเมือง หรือแม้แต่การส่งสัญญาณให้ทะลุทะลวงในอาคารได้ดีขึ้นเล็กน้อย
✨ ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับ: เน็ต 5G ที่ดีกว่าเดิม!
การลงทุนครั้งนี้ของทั้ง AIS และ True ถือเป็นการยกระดับโครงข่ายที่ส่งผลดีต่อผู้ใช้งานโดยตรง:
🚀 อินเทอร์เน็ตมือถือเร็วขึ้น ลื่นขึ้น: คุณจะสัมผัสได้ถึงความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในจุดที่คนใช้งานเยอะ
📈 ระบบเครือข่ายเสถียรขึ้น: ไม่ว่าจะดูวิดีโอ เล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป สัญญาณก็จะนิ่งและไม่สะดุด
🌐 เปิดทางให้ 5G ทำงานเต็มประสิทธิภาพ: การได้คลื่นใหม่จะช่วยปูทางให้เทคโนโลยี 5G มีบทบาทและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องของความเร็ว การรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก (IoT) และเทคโนโลยี AI ในอนาคต
🗺️ ทำความเข้าใจ “ถนน” ของ 5G: แต่ละคลื่นมีหน้าที่ต่างกัน
การส่งสัญญาณ 5G ก็เหมือนกับการสร้าง “ถนน” เพื่อให้ข้อมูลวิ่งไปมา ซึ่งถนนเหล่านี้มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีจุดเด่นและบทบาทสำคัญที่ต่างกัน:
🏡 โลว์แบนด์ (Low-band): “ถนนลูกรังที่ไปได้ทั่วถึง”
คลื่นความถี่ต่ำๆ (เช่น 700 MHz, 900 MHz) มีจุดเด่นคือ ไปได้ไกลมาก และทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้ดี เหมาะสำหรับการครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ อย่างต่างจังหวัด หรือสัญญาณในอาคาร แต่ความเร็วก็จะไม่สูงนัก
🏙️ มิดแบนด์ (Mid-band): “หัวใจหลักของ 5G… ถนนคอนกรีตสายหลัก”
คลื่นความถี่กลางๆ (เช่น 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 3500 MHz) จัดอยู่ในกลุ่มนี้ นี่คือ ถนนคอนกรีตสายหลัก ที่มีความสมดุลทั้งเรื่อง ความเร็วที่สูง และ การครอบคลุมที่ดีในระดับหนึ่ง เป็นคลื่นที่ผู้ให้บริการทั่วโลกใช้เป็นแกนหลักในการสร้างเครือข่าย 5G
⚡️ ไฮแบนด์ (High-band หรือ mmWave): “ทางด่วนพิเศษความเร็วสูงขั้นสุด”
คลื่นความถี่สูงมากๆ (เช่น 26 GHz, 28 GHz) เปรียบเหมือน ทางด่วนพิเศษความเร็วสูงระดับจรวด ที่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วสุดๆ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีคนใช้งานหนาแน่นมากๆ แต่มีข้อจำกัดคือ ไปได้ไม่ไกลนัก
⚠️ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไปก็คือ เรื่องของราคาแพ็กเกจ ครับ เมื่อผู้ให้บริการมีการลงทุนจ่ายเงินประมูลคลื่นไปเป็นจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มที่ราคาค่าบริการต่างๆ อาจมีการปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ 😮💨
เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าทั้ง AIS และ True จะนำคลื่นความถี่ที่ได้ไปพัฒนาบริการในรูปแบบใดบ้าง และจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือของเราไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ!